การทำงานหาเลี้ยงชีพคือสิ่งจำเป็นสำหรับการใช้ชีวิต แต่กลับมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ตระหนักถึง “ภัยเงียบ” ที่แฝงมากับการทำงาน เพราะโรคจากการประกอบอาชีพนั้นเปรียบเสมือนศัตรูร้ายที่คอยคุกคามสุขภาพของคนทำงานอย่างไร้เสียง เป็นเสมือนการค่อย ๆ สะสมพิษวันแล้ววันเล่า จนกระทั่งเมื่อแสดงอาการออกมา ก็มักจะสายเกินกว่าที่จะเยียวยารักษาได้ทัน
วันนี้เราจึงอยากจะพาไปรู้จักโรคจากการประกอบอาชีพ หรืออันตรายที่ซ่อนอยู่ในที่ทำงาน เพื่อที่คุณจะสามารถปกป้องสุขภาพของตัวเองได้ทันก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินแก้
โรคที่เกิดจากการประกอบอาชีพ (Occupational Disease) คืออะไร ?
โรคที่เกิดจากการประกอบอาชีพ หมายถึง โรคหรือการเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นจากการทำงานในสภาพแวดล้อมที่มีอันตราย หรือต้องสัมผัสกับปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ เช่น สารเคมี ฝุ่นละออง หรือเชื้อโรค ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้ประกอบอาชีพนั้น ๆ โดยลักษณะสำคัญของโรคกลุ่มนี้คือ มักเกิดจากการสะสมภาวะที่เป็นอันตรายไปทีละน้อยอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน จนอาการมักจะแสดงออกชัดเจนเมื่อเวลาผ่านไประยะหนึ่ง
โรคจากการประกอบอาชีพ (Occupational Disease) มีอะไรบ้าง ?
1. โรคระบบทางเดินหายใจ
โรคที่เกิดจากการสูดดมสารพิษหรือฝุ่นละอองเป็นระยะเวลานาน จนทำให้เกิดการระคายเคืองที่ปอดหรือหลอดลม โดยอาการที่พบบ่อยคือ หายใจลำบาก ไอเรื้อรัง และหอบหืด
ตัวอย่างโรค
- - โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD)
ภาวะที่หลอดลมตีบแคบลงหรือถูกอุดกั้นอย่างถาวร ทำให้การหายใจติดขัด ผู้ป่วยมักมีอาการหอบเหนื่อย แน่นหน้าอก และไอเรื้อรัง - - โรคหืด
ภาวะที่หลอดลมไวต่อสิ่งกระตุ้นมากผิดปกติและตีบแคบลงชั่วคราว ทำให้ผู้ป่วยมีอาการหายใจลำบาก ไอ และมีเสียงวี้ดในหน้าอก - - โรคปอดฝุ่นจับ (Pneumoconiosis)
ภาวะที่มีการสะสมของฝุ่นในเนื้อปอด ทำให้เนื้อเยื่อปอดแข็งตัวและเกิดพังผืด ส่งผลให้ปอดสูญเสียความยืดหยุ่นและประสิทธิภาพในการแลกเปลี่ยนก๊าซ จนผู้ป่วยมีอาการหายใจลำบากที่รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ
ตัวอย่างอาชีพเสี่ยง
- - คนงานก่อสร้าง
- - พนักงานโรงงาน
- - ช่างเชื่อมโลหะ
2. โรคระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ
โรคที่เกิดจากการใช้งานร่างกายไม่เหมาะสมหรือทำซ้ำเป็นเวลานาน อาการที่พบบ่อยได้แก่ ปวดหลัง ปวดคอ และกล้ามเนื้ออักเสบ ซึ่งส่งผลกระทบต่อทั้งคุณภาพชีวิตและประสิทธิภาพในการทำงาน
ตัวอย่างโรค
- - อาการออฟฟิศซินโดรม
ภาวะที่มีอาการปวดเมื่อยบริเวณคอ ไหล่ และหลัง มักพบร่วมกับอาการชาและล้าตามแขนหรือมือ ผู้ป่วยอาจมีอาการปวดศีรษะและตึงที่บริเวณต้นคอ และบางรายอาจมีอาการตาพร่ามัวหรือแห้งร่วมด้วย - - โรคหมอนรองกระดูกเสื่อม
ภาวะที่หมอนรองกระดูกสันหลังสูญเสียความยืดหยุ่นและความสามารถในการรับแรงกระแทก ส่งผลให้เกิดการกดทับเส้นประสาท โดยผู้ป่วยจะมีอาการปวดหลังรุนแรง อาจร้าวไปที่ขาหรือแขน และบางรายมีอาการชาหรือกล้ามเนื้ออ่อนแรงร่วมด้วย - - โรคกล้ามเนื้ออักเสบเรื้อรัง
ภาวะที่กล้ามเนื้อเกิดการอักเสบต่อเนื่อง ทำให้เกิดอาการปวด ตึง และมีจุดกดเจ็บ จนผู้ป่วยไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ หรือเคลื่อนไหวได้จำกัด
ตัวอย่างอาชีพเสี่ยง
- - พนักงานออฟฟิศ
- - คนขับรถ
- - พนักงานโรงงาน
3. โรคระบบหัวใจและหลอดเลือด
โรคระบบหัวใจและหลอดเลือดมักเกิดจากความเครียดสะสม การทำงานหนักเกินไป และการพักผ่อนไม่เพียงพอ โดยอาการที่พบบ่อยคือ เหนื่อยง่าย ใจสั่น เจ็บหน้าอก และความดันโลหิตสูง
ตัวอย่างโรค
- - โรคความดันโลหิตสูง
ภาวะที่ความดันในหลอดเลือดแดงสูงกว่าปกติอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสัมพันธ์กับความเครียดจากการทำงาน ผู้ป่วยอาจไม่แสดงอาการในระยะแรก แต่หากไม่ได้รับการรักษาอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือดสมอง - - โรคหัวใจขาดเลือด
ภาวะที่กล้ามเนื้อหัวใจไม่ได้รับเลือดเพียงพอ เนื่องจากหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจตีบแคบลง ผู้ป่วยมักมีอาการเจ็บแน่นหน้าอก เหงื่อออก และหายใจลำบาก โดยเฉพาะเมื่อมีความเครียดหรือทำงานหนัก ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ - - ภาวะที่หัวใจเต้นผิดจังหวะ
มักเกิดจากการทำงานเป็นกะ หรือการทำงานไม่เป็นเวลา ส่งผลให้ร่างกายขาดการพักผ่อนที่เพียงพอ ผู้ป่วยจะมีอาการใจสั่น เวียนศีรษะ หรือหน้ามืดเป็นบางครั้ง และอาจเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนทางหัวใจในระยะยาว
ตัวอย่างอาชีพเสี่ยง
- - ผู้บริหารระดับสูง
- - แพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ที่ทำงานเข้าเวร
- - นักบินและพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน
4. โรคจากการสัมผัสสารเคมี
โรคจากการสัมผัสสารเคมี เกิดจากการทำงานที่ต้องสัมผัสกับสารเคมีอันตรายต่าง ๆ ทั้งผ่านทางการหายใจ การสัมผัสทางผิวหนัง หรือการกลืนกิน ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพทั้งแบบเฉียบพลันและเรื้อรัง โดยอาการที่พบบ่อยได้แก่ ระคายเคืองผิวหนัง ปัญหาระบบทางเดินหายใจ และความผิดปกติของระบบประสาท
ตัวอย่างโรค
- - โรคผิวหนังอักเสบจากการสัมผัส
ภาวะที่ผิวหนังเกิดการอักเสบเมื่อสัมผัสกับสารเคมี ทำให้ผิวหนังแดง คัน เจ็บ และอาจมีตุ่มน้ำหรือผื่นขึ้น ในกรณีรุนแรงอาจทำให้ผิวหนังลอกและเกิดแผลติดเชื้อตามมา - - โรคพิษจากสารตะกั่ว
ภาวะที่เกิดจากการสะสมของตะกั่วในร่างกาย ส่งผลให้เกิดความผิดปกติของระบบประสาท ผู้ป่วยมีอาการปวดศีรษะ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร นอนไม่หลับ และในกรณีรุนแรงอาจมีอาการชักหรือโคม่า - - โรคพิษจากสารปรอท
ภาวะที่ร่างกายได้รับพิษจากปรอท ทำให้ระบบประสาททำงานผิดปกติ ผู้ป่วยมักมีอาการสั่น พูดติดอ่าง มีปัญหาด้านความจำ และอาจเกิดภาวะจิตสับสนในระยะยาวหากได้รับสารพิษอย่างต่อเนื่อง
ตัวอย่างอาชีพเสี่ยง
- - ช่างทาสีและพนักงานในอุตสาหกรรมสี
- - คนงานในโรงงานแบตเตอรี่
- - เจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการเคมี
5. โรคเกี่ยวกับสายตา
โรคเกี่ยวกับสายตา มักเกิดจากการใช้สายตาเพ่งมองหรือทำงานในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม เช่น แสงสว่างไม่เพียงพอ ซึ่งส่งผลให้เกิดอาการปวดตา ตาแห้ง มองเห็นไม่ชัด และปวดศีรษะ
ตัวอย่างโรค
- - กลุ่มอาการคอมพิวเตอร์วิชัน (Computer Vision Syndrome)
ภาวะที่เกิดจากการจ้องหน้าจอเป็นเวลานาน ทำให้มีอาการตาแห้ง แสบตา มองเห็นภาพซ้อน ปวดตา และปวดศีรษะ โดยอาการมักจะรุนแรงขึ้นเมื่อใช้สายตาต่อเนื่องโดยไม่ได้พัก - - โรคตาแห้ง (Dry Eye Syndrome)
ภาวะที่ตาผลิตน้ำตาไม่เพียงพอหรือน้ำตาระเหยเร็วเกินไป ทำให้ผู้ป่วยมีอาการแสบตา คัน รู้สึกมีสิ่งแปลกปลอมในตา และตาแดง ซึ่งบางรายอาจมีอาการน้ำตาไหลตลอดเวลาด้วย - - ภาวะสายตาล้า (Eye Strain)
ภาวะที่กล้ามเนื้อตาเมื่อยล้าจากการใช้งานมากเกินไป ทำให้มีอาการปวดรอบดวงตา มองเห็นไม่ชัด ตาไวต่อแสง และปวดศีรษะ โดยอาการมักดีขึ้นหลังจากได้พักสายตาอย่างเพียงพอ
ตัวอย่างอาชีพเสี่ยง
- - พนักงานออฟฟิศที่ใช้คอมพิวเตอร์
- - นักออกแบบกราฟิก
- - นักพัฒนาซอฟต์แวร์
6. โรคที่เกี่ยวข้องกับสภาวะแวดล้อมการทำงาน
โรคที่เกี่ยวข้องกับสภาวะแวดล้อมการทำงานมักเกิดจากการทำงานในสถานที่มีอุณหภูมิที่ร้อนหรือเย็นเกินไป แสงสว่างไม่เพียงพอ หรือเสียงดังเกินมาตรฐาน ซึ่งความรุนแรงของโรคจะขึ้นอยู่กับระยะเวลาและความเข้มข้นของการสัมผัสปัจจัยเสี่ยง
ตัวอย่างโรค
- - โรคเครียดจากความร้อน (Heat Stress)
ภาวะที่ร่างกายไม่สามารถระบายความร้อนได้ทัน ทำให้อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้น ผู้ป่วยมักมีอาการเหงื่อออกมาก คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ และในกรณีรุนแรงอาจเกิดอาการชัก หมดสติ หรือเสียชีวิต - - โรคประสาทหูเสื่อมจากเสียงดัง (Noise-Induced Hearing Loss)
ภาวะที่ประสาทหูเสื่อมจากการได้ยินเสียงดังเป็นเวลานาน ทำให้ความสามารถในการได้ยินลดลงโดยเฉพาะในช่วงความถี่สูง ผู้ป่วยอาจมีอาการหูอื้อ ได้ยินเสียงในหูโดยไม่มีแหล่งกำเนิดเสียง และมีปัญหาในการสื่อสารกับผู้อื่น - - โรคกระจกตาสะท้อนแสง (Photokeratitis)
ภาวะที่กระจกตาอักเสบจากการสัมผัสรังสีอัลตราไวโอเลตมากเกินไป ทำให้เกิดอาการปวดตารุนแรง แสบตา น้ำตาไหล กลัวแสง และมองเห็นไม่ชัด
ตัวอย่างอาชีพเสี่ยง
- - คนงานหลอมโลหะ
- - พนักงานก่อสร้างที่ทำงานกลางแจ้ง
- - ช่างเชื่อมและผู้ปฏิบัติงานในสถานที่ที่มีเสียงดัง
เตรียมพร้อมรับโรคจากการทำงานด้วยประกันสุขภาพที่ลดหย่อนภาษีได้จาก gettgo
เมื่อภัยเงียบจากโรคที่เกิดจากการประกอบอาชีพสามารถคุกคามสุขภาพของเราได้ตลอดเวลา ดังนั้น การเตรียมพร้อมรับมือจึงเป็นสิ่งสำคัญ นอกจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทำงานให้ปลอดภัยแล้ว การมีประกันสุขภาพที่ครอบคลุมก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยให้คุณอุ่นใจได้มากขึ้น
ประกันสุขภาพ so you จาก gettgo นำเสนอแพ็กเกจที่ปรับแต่งความคุ้มครองได้ตามไลฟ์สไตล์ของคุณ ด้วยความคุ้มครองผู้ป่วยนอก (OPD) สูงสุด 30 ครั้งต่อปี และผู้ป่วยใน (IPD) ด้วยวงเงินสูงสุดถึง 1 ล้านบาท พร้อมคุ้มครองโรคร้ายแรงที่อาจเกิดจากการทำงาน สมัครง่ายเพียง 5 นาที โดยไม่ต้องตรวจสุขภาพ และที่สำคัญ เบี้ยประกันยังสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ ทำให้คุณได้รับประโยชน์ทั้งด้านสุขภาพและการวางแผนทางการเงินไปพร้อมกัน
ตรวจสอบเบี้ยประกันได้ทันทีผ่านเว็บไซต์ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิทธิลดหย่อนภาษีจากประกันสุขภาพผ่าน LINE OA: @gettgo หรือโทร. 02-111-7800
ข้อมูลอ้างอิง
- ปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคที่มักจะเกิดขึ้นในผู้ใหญ่วัย 40. สืบค้นเมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2568 จาก https://www.petcharavejhospital.com/th/Article/article_detail/Chronic-Obstructive-Pulmonary-Disease-usually-occur-age-40.
- 7 โรคฮิตคุกคามชีวิตคนทำงาน. สืบค้นเมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2568 จาก https://www.bangkokhospital.com/content/7-popular-diseases-that-threaten-workers.
- โรคจากการทำงาน เกิดขึ้นได้ทุกส่วนของร่างกาย. สืบค้นเมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2568 จาก https://ddc.moph.go.th/uploads/files/7eb69a55fce6f4112b17ac33b6f054ea.pdf.