ลงทะเบียนไปเกาหลี 2568 ต้องทำอะไรบ้าง ? รวมขั้นตอนแบบละเอียด
หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เริ่มคลี่คลายลง โลกของการท่องเที่ยวก็ค่อย ๆ กลับมาคึกคักกันอีกครั้ง โดยเฉพาะการท่องเที่ยวต่างประเทศที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ สำหรับนักเดินทางชาวไทย หนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดฮิตที่หลายคนคิดถึงมากก็คือ “ประเทศเกาหลีใต้” อย่างไรก็ตาม แม้ว่าหลายประเทศจะเปิดรับนักท่องเที่ยวแล้ว แต่ก็ยังคงมีมาตรการการเข้าประเทศที่แตกต่างกันออกไป ซึ่ง “เกาหลีใต้” เองก็มีระบบลงทะเบียนไปเกาหลีใต้ล่วงหน้าสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เรียกว่า K-ETA (Korea Electronic Travel Authorization) ที่ต้องดำเนินการให้เรียบร้อยก่อนเดินทาง บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักว่า K-ETA คืออะไร ทำไมต้องลงทะเบียน และมีขั้นตอนลงทะเบียน K-ETA ไปเกาหลีใต้ในปี 2568 แบบครบถ้วน พร้อมแนะนำเรื่อง “ประกันเดินทาง” ที่ไม่ควรมองข้าม เพื่อให้คุณเที่ยวเกาหลีใต้ได้อย่างอุ่นใจ!
K-ETA คืออะไร มีความสำคัญอย่างไร ?
K-ETA ย่อมาจาก Korea Electronic Travel Authorization คือระบบการขออนุญาตเดินทางเข้าประเทศเกาหลีใต้สำหรับชาวต่างชาติผ่านช่องทางออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน K-ETA โดยไม่จำเป็นต้องไปยื่นขอวีซ่าที่สถานทูต ระบบนี้พัฒนาขึ้นโดยกระทรวงยุติธรรมเกาหลีใต้ เพื่อช่วยคัดกรองบุคคลที่อาจลักลอบเข้ามาทำงานอย่างผิดกฎหมายในเกาหลีใต้ และช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการควบคุมคนเข้าเมืองอย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับนักท่องเที่ยวที่วางแผนเดินทางไปเกาหลีใต้ หนึ่งในคำถามยอดฮิตคือ “ไปเกาหลีต้องเตรียมอะไรบ้าง” ซึ่งคำตอบอันดับแรกคือ ต้องตรวจสอบว่าเรามี K-ETA แล้วหรือยัง โดยเฉพาะผู้ที่ถือสัญชาติจากประเทศที่ได้รับการยกเว้นวีซ่า เช่น ประเทศไทย จำเป็นต้องขอ K-ETA ล่วงหน้าก่อนเดินทางอย่างน้อย 72 ชั่วโมง เพราะหากยังไม่ได้รับอนุมัติ จะไม่สามารถจองตั๋วหรือเดินทางเข้าประเทศได้
ระบบ K-ETA เริ่มมีผลบังคับใช้มาตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2564 และเริ่มเปิดให้นักท่องเที่ยวทั่วไปสามารถเข้าประเทศได้เต็มรูปแบบเมื่อเดือนเมษายน 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นหนึ่งในมาตรการเข้าประเทศเกาหลีใต้ล่าสุด ที่นักเดินทางควรทราบ ปัจจุบันแม้จะไม่มีข้อกำหนดด้านโควิดเข้มงวดเหมือนช่วงก่อน แต่เกาหลีใต้ยังคงมีขั้นตอนคัดกรองเบื้องต้น เช่น ตรวจสอบจุดประสงค์การเดินทาง ประวัติการเดินทาง และความน่าเชื่อถือของผู้เดินทางผ่าน K-ETA
ค่าธรรมเนียมในการขอ K-ETA อยู่ที่ 10,000 KRW หรือประมาณ 270 บาท และเมื่อได้รับการอนุมัติแล้ว K-ETA ที่ได้รับมานั้นจะมีผลบังคับใช้ 2 ปีนับตั้งแต่ได้รับอนุมัติ ซึ่งเราจะไม่ต้องไปกรอกใบขาเข้าที่ประเทศเกาหลีใต้ซ้ำอีก อย่างไรก็ตาม การได้รับ K-ETA ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะเข้าประเทศเกาหลีใต้ได้แบบผ่านฉลุย เพราะเรายังต้องไปเจอด่านสุดท้ายนั่นคือ ด่านตรวจคนเข้าเมืองที่สนามบินของเกาหลีใต้อยู่ดี หากเจ้าหน้าที่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับจุดประสงค์ในการเดินทางหรือข้อมูลไม่ครบถ้วน ก็อาจเสี่ยงต่อการไม่ผ่าน ตม. เกาหลีใต้เช่นกัน กรณีที่ผู้เดินทางไม่ได้รับการอนุมัติ K-ETA ตั้งแต่แรก เช่น ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมิน หรือมีเหตุผลประกอบการเดินทางไม่ชัดเจน ก็สามารถยื่นขอใหม่ได้อีกครั้ง หรือกลับไปใช้การขอวีซ่าแบบปกติแทนได้
เอกสารที่ต้องมีในการลงทะเบียน K-ETA
- หนังสือเดินทางหรือพาสปอร์ตที่ยังไม่หมดอายุ สแกนด้วยสกุลไฟล์ .jpeg .jpg .pdf .bmp อย่างใดอย่างหนึ่งด้วยขนาดไม่เกิน 300k
- รูปถ่ายหน้าตรง รูปถ่ายควรเป็นรูปหน้าตรง แนวตั้ง เห็นหน้าชัดเจน ไม่สวมหมวก แว่นตา หรือผ้าพันคอ ขนาด 700*700 ไฟล์ภาพขนาดไม่เกิน 100kb
- ข้อมูลที่พักในเกาหลีใต้ หมายความว่าเราต้องทำการจองที่พักก่อน เพื่อให้ได้ที่อยู่ในการไปพำนักอย่างชัดเจน ขณะที่หลักฐานการจองตั๋วเครื่องบินไม่ต้องใช้ จึงแนะนำให้จองหลังจากที่ได้รับการอนุมัติ K-ETA แล้ว
- บัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตสำหรับหักค่าธรรมเนียม
ขั้นตอนการลงทะเบียน K-ETA
- เข้าสมัครในเว็บไซต์ https://www.k-eta.go.kr/portal/apply/index.do หรือแอปพลิเคชัน K-ETA
- กรอกอีเมลสำหรับใช้รับผลการอนุมัติ กรอกข้อมูลหนังสือเดินทางหรือพาสปอร์ต พร้อมอัปโหลดภาพหน้าหนังสือเดินทาง
- กรอกข้อมูลในการเข้าประเทศเกาหลีใต้ เช่น วัตถุประสงค์ของการเดินทาง ที่อยู่ที่จะไปพำนัก และแนบรูปถ่ายหน้าตรง การกรอกข้อมูลต่าง ๆ ควรกรอกอย่างละเอียดและให้ตรงตามความเป็นจริงเพราะจะมีผลในการพิจารณา
- ชำระค่าธรรมเนียม 10,000 KRW หรือประมาณ 270 บาทต่อผู้สมัคร 1 คน โดยสามารถจ่ายผ่านบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตได้เลย ทั้งนี้อาจมีค่าธรรมเนียมในการชำระผ่านออนไลน์เพิ่มเติม เมื่อชำระเงินแล้วเท่ากับเป็นการยืนยันว่าเราสมัคร K-ETA แล้วเรียบร้อย และจะไม่สามารถขอเงินคืนได้ทุกกรณี
การทราบผลการลงทะเบียน K-ETA และการเข้าประเทศเกาหลีใต้
ตรวจสอบผลการลงทะเบียนไปเกาหลีใต้ผ่านทางอีเมลที่กรอกไว้ ซึ่งจะเป็นผลอนุมัติจากกระทรวงยุติธรรมของสาธารณรัฐเกาหลีใต้ภายใน 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ควรได้รับการอนุมัติก่อนเดินทาง 72 ชั่วโมง
- หากได้รับการอนุมัติแล้ว ขั้นตอนต่อมาก็คือการจองตั๋วเครื่องบินไปเกาหลีใต้ และเตรียมเอกสารให้พร้อมตามมาตรการปัจจุบัน
- เมื่อเดินทางถึงประเทศเกาหลีใต้แล้ว ผู้ที่มี K-ETA จะได้รับสิทธิ์ไม่ต้องกรอกบัตรตรวจคนเข้าเมืองอีก เพียงแค่แสดงหนังสือเดินทางและผ่านขั้นตอนตรวจคนเข้าเมือง ก็สามารถเข้าสู่ประเทศเกาหลีใต้ได้ทันที
ข้อควรระวัง
- การกรอกข้อมูลใน K-ETA ควรทำให้ครบถ้วนและละเอียดที่สุด โดยเฉพาะข้อมูลสำคัญ เช่น เหตุผลในการเดินทางเข้าประเทศเกาหลีใต้ สถานที่พำนัก ควรกรอกให้ละเอียดว่าพักที่ไหนเมืองไหน ชื่อโรงแรมอะไร และระยะเวลาในการพำนักในประเทศเกาหลีใต้ ควรระบุให้ชัดเจนว่าเราจะมากี่วัน กลับวันไหน
- แน่นอนว่าการพำนักอยู่ในเกาหลีใต้เกินกำหนดนับว่าผิดกฎหมายอย่างร้ายแรง และยังจะทำให้เสียชื่อเสียงแก่ชาวไทยที่ต้องการเข้าประเทศอย่างถูกกฎหมายด้วย เมื่อขอ K-ETA ผ่านและเข้าประเทศเกาหลีใต้ได้แล้ว เราสามารถพำนักอยู่ได้ไม่เกิน 90 วันต่อครั้งเท่านั้น
- กรณีที่ต้องขออนุมัติ K-ETA ซ้ำอีกครั้ง ได้แก่ ผู้ที่ขอแล้วไม่ผ่าน หรือผู้ที่แม้จะได้รับการอนุมัติ K-ETA ไปแล้ว แต่มีการเปลี่ยนข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ-นามสกุล หมายเลขพาสปอร์ต โรคประจำตัว ฯลฯ
- ช่วงนี้มีผู้ต้องการเดินทางเข้าประเทศเกาหลีใต้กันเยอะมากขึ้น ดังนั้นการทราบผลอาจนานมากกว่า 24 ชั่วโมง ผู้ยื่นขอจึงต้องคำนวณระยะเวลาให้ดีเพื่อให้ได้รับการอนุมัติก่อนเดินทาง และแน่นอนว่านอกจากจะมีผู้ขอเยอะแล้ว จำนวนผู้ถูกปฏิเสธก็เยอะเช่นเดียวกัน ดังนั้นข้อมูลที่เราจะใช้กรอกจึงสำคัญมาก
- สำหรับผลการตรวจโควิด ปัจจุบันเกาหลีใต้ได้เปลี่ยนมาตรการให้นักท่องเที่ยวไม่จำเป็นต้องกักตัวหรือยื่นผลการตรวจโควิดที่เป็นลบล่วงหน้าแล้ว เพียงแต่นอกจากเราจะต้องลงทะเบียน K-ETA ให้ผ่านแล้ว ยังต้องลงทะเบียน Q-CODE เพื่อให้ข้อมูลด้านสุขภาพก่อนเดินทางเข้าประเทศเกาหลีใต้ด้วย
K-ETA ผ่านแล้ว อย่าลืมประกันเดินทาง
ประกันเดินทางหลัก ๆ แล้วมีทั้งแบบรายเที่ยว สำหรับผู้ที่เดินทางระยะสั้น ๆ และไม่บ่อยใน 1 ปี และแบบรายปี สำหรับผู้ที่เดินทางบ่อย ๆ ใน 1 ปี ซึ่งเมื่อคำนวณแล้วจะถูกกว่าแบบการซื้อแยกสำหรับแต่ละทริป บางคนอาจมองว่าไม่จำเป็นต้องซื้อก็ได้ เพราะคงไม่เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นขณะเที่ยวหรอก แต่ความคิดนี้ที่จริงแล้วผิดมหันต์เลย
ประกันเดินทางคุ้มครองกรณีไฟลต์บินมีปัญหา
เรื่องไฟลต์บินดีเลย์ หรือถูกยกเลิก นับเป็นเหตุสุดวิสัยที่เราควบคุมอะไรไม่ได้ การมีประกันเดินทางจะช่วยคุ้มครองค่าเสียหายส่วนนี้ เช่น ค่าตั๋วเครื่องบินที่ถูกยกเลิกซึ่งเรายังไม่ได้เดินทาง หรือการชดเชยค่าเสียเวลาหากเครื่องบินของเราดีเลย์เกินเวลาที่กำหนด
ประกันเดินทางคุ้มครองสุขภาพและอุบัติเหตุ
เรื่องการเจ็บไข้ได้ป่วยหรืออุบัติเหตุก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เราคาดเดาไม่ได้ ยิ่งหากไปเจ็บป่วยที่ต่างประเทศขึ้นมายิ่งลำบาก เพราะนอกจากจะมีกำแพงเรื่องภาษาแล้ว ค่ารักษาพยาบาลที่ต่างประเทศยังอาจแพงกว่าในประเทศไทยมาก ดังนั้น การมีประกันเดินทางติดตัวเอาไว้จึงช่วยให้เราอุ่นใจแม้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน
คุ้มครองทรัพย์สินหรือเอกสารสำคัญ
ความจริงแล้วประกันเดินทางยังครอบคลุมไปถึงทรัพย์สินของเราด้วย ไม่ว่าจะกระเป๋าเดินทางที่อาจชำรุดหรือล่าช้าจากเที่ยวบิน รวมไปถึงเอกสารสำคัญในการเดินทางอย่างพาสปอร์ต
ประเทศเกาหลีใต้ถือเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยม ที่คนไทยอยากจะไปเที่ยวกันมากที่สุดหลังการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 คลี่คลายลง แต่การจะเข้าประเทศเกาหลีใต้ได้ก็ยังต้องมีขั้นตอน นั่นก็คือการขออนุมัติ K-ETA ซึ่งผู้ที่จะเดินทางควรเตรียมตัวก่อนไปเกาหลีใต้และศึกษาเกี่ยวกับ K-ETA ให้ละเอียด เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกปฏิเสธ และมั่นใจในการเดินทาง การเตรียมข้อมูลอย่างถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้การลงทะเบียนผ่านได้อย่างราบรื่น นอกจากนี้เพื่อให้การเดินทางของเราอุ่นใจจากเหตุการณ์ไม่คาดฝัน นักท่องเที่ยวทั้งหลายควรจะทำประกันเดินทางต่างประเทศติดตัวไปด้วยเผื่อในกรณีฉุกเฉิน และควรเลือกแผนประกันเดินทางที่เหมาะสมกับเรามากที่สุดเพื่อความปลอดภัยและความมั่นใจในทุกขั้นตอนของการท่องเที่ยว
คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับการลงทะเบียนไปเกาหลีใต้ K-ETA
Q : ลง K-ETA ยังไงให้ผ่าน ?
ควรกรอกข้อมูลให้ครบถ้วนและถูกต้อง โดยเฉพาะเหตุผลในการเดินทาง ข้อมูลที่พัก และพาสปอร์ต ตรวจสอบข้อมูลให้ละเอียดและยืนยันการชำระค่าธรรมเนียมให้เรียบร้อย เพื่อป้องกันการถูกปฏิเสธการอนุมัติ K-ETA
Q : K-ETA รอกี่วัน ?
โดยทั่วไปแล้วหลังจากกรอกข้อมูลและชำระค่าธรรมเนียมแล้ว จะใช้เวลาประมาณ 24 ชั่วโมง ในการพิจารณาอนุมัติ K-ETA แต่อาจใช้เวลานานกว่านั้นหากมีการยื่นคำขอจำนวนมาก ดังนั้น ควรยื่นขอ K-ETA ล่วงหน้าอย่างน้อย 72 ชั่วโมง ก่อนวันเดินทางเพื่อให้มั่นใจว่าจะได้รับการอนุมัติทันเวลา
Q : K-ETA กี่วันรู้ผล ?
หลังจากที่ได้ทำการยื่นคำขอ K-ETA และชำระค่าธรรมเนียมแล้ว ปกติจะทราบผลภายใน 24 ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม ในบางกรณีอาจมีการขอข้อมูลเพิ่มเติมหรือตรวจสอบข้อมูลทำให้ใช้เวลานานขึ้น โดยผลการอนุมัติจะส่งไปยังอีเมลที่คุณกรอกในตอนสมัคร
Q : K-ETA กรอกอะไรบ้าง ?
การกรอกข้อมูลสำหรับ K-ETA จะต้องกรอกข้อมูลที่สำคัญดังนี้
- - ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ นามสกุล วันเดือนปีเกิด
- - ข้อมูลหนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต) เช่น หมายเลขพาสปอร์ต, วันหมดอายุ
- - ข้อมูลที่พักในเกาหลีใต้ รวมถึงชื่อโรงแรมที่พัก และที่อยู่
- - เหตุผลในการเดินทาง เช่น การท่องเที่ยว ธุรกิจ หรือเหตุผลส่วนตัว
- - รูปถ่ายหน้าตรง และเอกสารประกอบที่จำเป็น การกรอกข้อมูลให้ละเอียดและถูกต้องมีความสำคัญมากเพื่อให้การลงทะเบียน K-ETA ผ่านอย่างราบรื่น
Q : K-ETA ลงทะเบียนได้กี่ครั้ง ?
K-ETA สามารถใช้ได้เพียงครั้งเดียวต่อการเดินทาง โดยจะมีอายุการใช้งาน 2 ปี นับจากวันที่ได้รับการอนุมัติ ในกรณีที่คุณมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ หรือหมายเลขพาสปอร์ต คุณอาจจำเป็นต้องยื่นคำขอใหม่หรือขอ K-ETA ซ้ำอีกครั้งเพื่อให้ข้อมูลเป็นปัจจุบัน
Q : ลงทะเบียน K-ETA ไม่ผ่าน เพราะอะไร ?
การที่ K-ETA ไม่ผ่าน อาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น
- - ข้อมูลผิดพลาด : การกรอกข้อมูลไม่ตรงตามความเป็นจริง เช่น ข้อมูลที่พัก หรือเหตุผลในการเดินทางไม่ชัดเจน
- - ปัญหาด้านความน่าเชื่อถือ : หากการประเมินจาก K-ETA พบข้อมูลที่ไม่สอดคล้องหรือมีความเสี่ยงในการเข้าประเทศ
- - ปัญหาด้านการชำระเงิน : หากไม่สามารถชำระค่าธรรมเนียมได้สำเร็จ หากไม่ได้รับการอนุมัติ K-ETA สามารถยื่นขอใหม่ได้หรือใช้การขอวีซ่าแบบปกติแทน